การวัดความดันด้วยเกจเป็นการวัดด้วยวิธีเชิงกลที่ใช้หลักการความยืดหยุ่น โดยส่วนใญ่การวัดแบบนี้จะเป็นการวัดเพื่อแสดงค่าความดันที่วัดได้ ในบางครั้งอาจจะมีสวิตช์ให้เพื่อใช้ทำสัญญาณเตือนภัย (Alarm) ด้วย การวัดความดันเกจสามารถวัดได้ทั้ง Gauge Pressure , Absolute Pressure , Vacuum Pressure และ Differential Pressure สำหรับเกจวัดแรงดันซึ่งใช้อยู่ในอุตสาหกรรมมีอยู่ 3 แบบด้วยกันคือ1. เกจวัดแรงดันแบบบูร์ดอง (Bourdon Gauge)2. เกจวัดแรงดันแบบเบลโล (Bellow Type)3. เกจวัดแรงดันแบบไดอะแฟรม (Diaphragm Type)

เกจวัดแรงดันแบบบูร์ดอง (Bourdon Gauge)

บูร์ดองเป็นท่อโลหะที่มีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปวงรี (Oval) และงอขึ้นเป็นส่วนโค้งของวงกลมหรือเป็นขด ปลายข้างหนึ่งปิด เมื่อมีความดันต่อเข้าปลายอีกข้างหนึ่งที่เปิดซึ่งถูกตรงอยู่กับที่ ความดันนี้จะทำให้บูร์ดองเกิดความเครียด (Stress) และพยายามเหยีดตัวออกให้ตรง ทำให้ปลายข้างที่ปิด เคลื่อนที่ไป โดยการเคลื่อนที่จะเป็นอัตราส่วนกับความดันที่อยู่ภายในท่อ และเมื่อปล่อยลมออกบูร์ดองจะม้วนตัวกลับเข้าสู่สภาพเดิม ดังนั้นค่าของความดันสามารถทราบได้จากระยะการเคลื่อนที่

เกจวัดแรงดันแบบเบลโล (Bellow Type)

เบลโลว์ (bellow) เป็นเกจวัดแรงดันชนิดอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางกลด้วยหลักการยืดตัว/โก่งตัวของวัสดุที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นหรือเรียกว่า “เครื่องมือวัดความดันแบบอิลาสติก” เช่นเดียวกับบูร์ดอง (bourdon gauge) นิยมใช้วัดในย่าน (range) ความดันต่ำหรือต่ำกว่าบรรยากาศ  โดยมีค่าความดันสูงสุดประมาณ 1.5 บาร์ โครงสร้างของเบลโลว์มีลักษณะคล้ายลูกฟูก ภายในกลวงสามารถยืดหยุ่นตัวได้ ปลายด้านหนึ่งปิดยึดติดกับเข็มชี้วัดระยะ ปลายอีกด้านหนึ่งเปิดเพื่อเป็นช่องทางเข้าของความดัน (pressure) ที่ต้องการวัด ภายในเบลโลว์อาจติดตั้งสปริงหรือตัวหยุดการเคลื่อนที่ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการรับค่าความดันเกินพิกัด มีหลักการทำงานคล้ายกับเกจวัดแรงดันชนิดบูร์ดอง นั่นคือ เมื่อเบลโลว์ได้รับความดันจากภายนอกทำให้ความดันภายในสูงขึ้น ส่งผลให้เบลโลว์เกิดการยืดตัวออกในทิศทางเดียวกับทิศทางของความดันที่เข้าไปในเบลโลว์เบลโลว์เป็นเกจวัดแรงดันที่มีราคาปานกลาง มีค่าความไวในการวัด (sensitivity) สูงกว่าบูร์ดองแบบก้นหอย (spiral bourdon) ที่การป้อนค่าความดันเดียวกัน มีความถูกต้อง (accuracy) และเที่ยงตรง (precision) มากกว่าบูร์ดองรูปตัว c (c-type bourdon) เนื่องจากปลายด้านที่ปิดของเบลโลว์ต่อตรงเข้ากับเข็มชี้ค่าไม่ผ่านชุดเฟืองใด ๆ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นของสเกลจะให้ผลไม่เป็นเชิงเส้น ดังนั้น ในการเลือกใช้จึงต้องพิจารณาย่านการใช้งานให้ดีโดยหลีกเลี่ยงการใช้งานในช่วงเริ่มต้น 

เกจวัดแรงดันแบบไดอะแฟรม (Diaphragm Type)

เกจวัดแรงดันแบบไดอะแฟรม (Diaphragm Type) จะประกอบไปด้วยไดอะแฟรมเป็นแผ่นโลหะหรือสารสังเคราะห์ มีลักษณะกลม บาง อาจเป็นแผ่นเรียบ (Flat Type) หรือเป็นลอน (Corrugate Type) ก็ได้ กรณีที่นำเอาไดอะแฟรมแบบลอนสองแผ่นประกบกัน จะเรียกว่า แบบแคพซูล (Capsule) โดยหลักการทำงานนั้น เมื่อมีความดันมากระทำลงบนแผ่นไดอะแฟรม ไดอะแฟรมจะโก่งตัวไปตามทิศทางของแรงที่เกิดจากความดัน โดยระยะของการโก่งตัวจะเป็นไปตามแรงของความดันที่กระทำกับแผ่นไดอะแฟรม ความดันนี้จะผ่าน Liquid Seal ที่ถูกบรรจุอยู่ในช่วงระหว่างหลังแผ่นไดอะแฟรมกับท่อบูร์ดอง ซึ่งความดันที่ต้องการวัด ที่กระทำกับหน้าแผ่นไดอะแฟรมนี้จึงเป็นความดันเดียวกัน ดันนั้นจึงสามารถวัดความดันได้เช่นเดียวกัน สำหรับการวัดความดันในลักษณะนี้เหมาะกับการวัดความดันที่มีของไหลที่มีการกัดกร่อน มีความหนืดสูง หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดการแข็งตัวทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย เนื่องจากการวัดแบบใช้แผ่นไดอะแฟรมสามารถทำเคมีคอลซีลได้ง่าย โดยการเติมของเหลว เพื่อซีลไม่ให้สัมผัสกับ Fluid ที่เป็นของไหลในระบบโดยตรง

สนใจต้องการเลือกซื้อ Pressure Gauge หรือ เกจวัดแรงดัน ที่มีการเติมน้ำมันสำหรับเกจวัดแรงดันสามารถเลือกซื้อได้ที่ร้านช่างวัด ผ่านช่องทางนี้ครับ www.changwad.com ทางร้านของเราจำหน่ายเครื่องมือวัดอุณหภูมิ เกจวัดแรงดัน วาล์วอุตสาหกรรม มัลติมิเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมอื่นๆ ทุกชนิด

ลิงค์ตัวอย่างสินค้า เกจวัดแรงดันเติมน้ำมัน

https://www.changwad.com/c/17